วัดซาซะเอโดะ
วัดอันงดงามแห่งนี้สร้างด้วยไม้ตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาอีโมริ มีการออกแบบที่แปลกตาซึ่งเป็นโครงสร้างเกลียวคู่ที่ไม่มีพื้นหรือบันได ผู้เข้าชมจะเดินไปตามเส้นทางที่มีลักษณะคล้ายทางลาดผ่านวัดซึ่งเป็นทางเดินแบบทางเดียวที่ยาวต่อเนื่อง เดินข้ามสะพานที่ด้านบนก่อนลงมา และจะไม่มีใครเดินสวนมาจากทางอื่น เนื่องจากเป็นวัดเดียวในญี่ปุ่นที่มีการออกแบบเช่นนี้ ซาซะเอโดะจึงได้รับเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ อีกหนึ่งตัวอย่างของการออกแบบทางสถาปัตยกรรมแบบเกลียวคู่ที่หายากคือบันไดที่พระราชาวังช็องบอร์ (Château de Chambord) ในฝรั่งเศส ซึ่งว่ากันว่าออกแบบโดยเลโอนาร์โด ดา วินชี
การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจ
พระภิกษุชื่ออิคุโดะเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังวัดแห่งนี้ซึ่งสร้างแล้วเสร็จในปี 1796 อิคุโดะเลือกการออกแบบเกลียวคู่ที่โดดเด่นเพราะเขาต้องการสร้างวิธีที่สะดวกสำหรับผู้มาสักการะ เพื่อให้พวกเขาสามารถพิชิตเส้นทางแสวงบุญที่มีชื่อเสียงในเวอร์ชั่นขนาดเล็กที่เชื่อมโยงพระโพธิสัตว์กวนอิมทั้ง 33 รูปเอาไว้ ว่ากันว่าเจ้าแม่กวนอิมสามารถเปลี่ยนร่างได้ 33 รูป และเป็นผู้กอบกู้สิ่งมีชีวิตทั้งปวง การแสวงบุญเต็มรูปแบบซึ่งเรียกว่าการจาริกแสวงบุญไซโกคุ (“จังหวัดทางตะวันตก”) คันนอน 33 แห่งนั้น เป็นการเดินทางผ่าน 7 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคคันไซ (วาคายามะ โอซาก้า นารา เฮียวโงะ เกียวโต ชิกะ และกิฟุ) ซึ่งจะใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่าจะแล้วเสร็จ
อิคุโดะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 33 รูป ติดตั้งอยู่ทั่ววัดซาซะเอโดะ และผู้มาเยือนที่วัดสามารถแสดงความเคารพต่อรูปปั้นแต่ละรูปได้ขณะเดินไปตามเส้นทางเดิน การแสวงบุญจึงทำได้ครบสมบูรณ์ภายในเวลาไม่กี่นาที
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่ซาซะเอโดะในปัจจุบันเป็นรูปปั้นจำลอง และตัววัดเองก็ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1890
การทิ้งร่องรอยเอาไว้
ผนังและเพดานของวัดถูกปกคลุมไปด้วยสติกเกอร์กระดาษสีสันสดใสที่เรียกว่าเซ็นจะฟุดะ ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วผู้แสวงบุญจะติดไว้บนศาลเจ้าและวัดเพื่อเป็นหลักฐานการมาเยือน บนป้ายกระดาษมักจะระบุชื่อบุคคลและที่อยู่อาศัย รวมถึงการตกแต่งอื่นๆ เซ็นจะฟุดะในซาซะเอโดะทำให้เห็นภาพของยุคที่การไปวัดเป็นกิจกรรมสันทนาการยอดนิยมและเป็นรูปแบบของการพักผ่อนสำหรับหลายๆ คน
ชื่ออย่างเป็นทางการของวัดคือ เอ็นสึ ซันโซ (แปลว่า “วงกลมสามครั้ง”) หมายถึงการที่ผู้มาเยือนจะต้องเดินวนรอบวัดหนึ่งรอบครึ่งเพื่อขึ้นไปถึงยอดเขา และเดินวนตามจำนวนรอบเท่าเดิมเมื่อเดินลงมา ชื่อเล่นของวัดที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางกว่าคือ ซาซะเอโดะ ซึ่งมาจากรูปร่างของวัดซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเปลือกหอยตาวัว (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “ซาซะเอะ”)
ใกล้กับวัดมีรูปปั้นนักรบซามูไรหนุ่ม ผู้เป็นสมาชิกของกลุ่มเยาวชน Byakkotai (กองพลเสือขาว) ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบที่ต่อสู้ในสงครามโบชิน (ค.ศ. 1868–1869) หลุมศพของสมาชิก Byakkotai ทั้ง 19 คนที่เสียชีวิตบนภูเขาอีโมรินั้นตั้งอยู่บนยอดเขาซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของเมืองที่อยู่ด้านล่างได้
Related Places
-
- พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Aizu Machikata
-
ศูนย์ข้อมูลเมืองไอสึ "HOT" Fureai station..read more
-
- ถนน Nanukamachi-dori
-
เมืองสไตล์เรโทร ที่ให้บรรยายกาศโรแมนติคแบบสมัยไทโช..read more
-
- Suehiro Sake Brewery
-
บทความนี้กำลังถูกเขียนอยู่..read more
-
- สุสานตระกูล Matsudaira
-
สถานที่ทางประวัติศาสตร์บนเนินเขาที่กว้างใหญ่ ที่ซึ่งตระกูล Matsudaira หลับใหลอยู่ชั่วกาล..read more